
สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม เข้าขั้นวิกฤติแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังผลงานในฤดูกาลล่าสุดสะท้อนภาพชัดเจนถึงความล้มเหลวระดับรากฐาน ทั้งในแง่ของอันดับ, แชมป์ และฟอร์มการเล่นโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจบเพียงอันดับ 15 ใน พรีเมียร์ลีก แถมยังพลาดท่าแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซึ่งเท่ากับว่า “ปีศาจแดง” ปิดฤดูกาลแบบมือเปล่าโดยสิ้นเชิง
และที่ชวนช็อกไปกว่านั้นคือเกมอุ่นเครื่องล่าสุดที่แมนยูต้องพบกับความพ่ายแพ้อีกครั้งต่อทีมรวมดารา อาเซียน ซึ่งสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลทั่วโลกอย่างหนักหน่วง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรงถึงมาตรฐานของทีมที่ต่ำลงจนน่าใจหาย
รูเบน อโมริม ออกมาเปิดใจอย่างตรงไปตรงมา เขารับผิดชอบต่อผลงานเละเทะของทีมโดยไม่หลีกเลี่ยง พร้อมชี้ว่าการถูกแฟนบอลโห่ไล่หรือกดดันนั้นไม่ใช่เรื่องเกินเลยแม้แต่น้อย เพราะมันคือกระจกสะท้อนถึงความจริงว่า “ทีมนี้ยังไม่ดีพอ”
“ตั้งแต่ผมคุมเกมแรก ผมรู้สึกว่าผมต้องรับผิดชอบกับฟอร์มแย่ๆ ของทีม” อโมริมกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แฟนบอลแมนยูคอยหนุนหลังเรามาโดยตลอด แม้ในวันที่เราพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีก และบางทีเสียงโห่นั้นอาจเป็นสิ่งที่เราควรได้ยินบ่อยกว่านี้ เพื่อปลุกให้ทุกคนในสโมสรตื่นจากความเฉื่อยชา”
เขายังเน้นชัดว่าปัญหาหลักของทีมไม่ใช่แค่แท็คติกหรือระบบการเล่นเท่านั้น แต่คือจิตใจและความกระหายชัยชนะที่ “หายไปอย่างสิ้นเชิง”
“เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด เราต้องการ mindset ใหม่ในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน เราขาดความกระหายที่จะชนะในทุกจังหวะ ไม่ว่าจะในสนามซ้อมหรือในเกมจริง ฤดูกาลหน้ามันต้องเปลี่ยน ไม่งั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะไม่มีวันกลับมายิ่งใหญ่อีกเลย”
นี่คือคำประกาศของกุนซือผู้ถูกคาดหวังว่าจะคืนชีพปีศาจแดงให้กลับมาอยู่ในจุดที่ควรอยู่ แต่หากยังไร้การเปลี่ยนแปลงในด้านทัศนคติ โอกาสที่จะเห็นแมนยูร่วงไปอีกขั้นก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง
ติดตามข่าวด่วนวงการฟุตบอลแบบเข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา