ค้างคาวไฟรอดตาย! สุโขทัย เอฟซี ฟอร์มไม่คงที่ แต่แข้งต่างชาติพาทีมรอดตกชั้นศึกไทยลีก 2024-2025

แม้เปิดฤดูกาลแบบกระท่อนกระแท่น และมีช่วงที่แผ่วปลายจนแฟนบอลต้องลุ้นกันหัวใจจะวาย แต่ในที่สุด สุโขทัย เอฟซี ก็สามารถฝ่าคลื่นมรสุมและเอาชีวิตรอดจากการตกชั้นได้สำเร็จในศึก ไทยลีก ฤดูกาล 2024-2025 ด้วยการจบที่อันดับ 10 จากทั้งหมด 16 ทีม มีผลงานรวม 30 นัด ชนะ 9 เสมอ 9 และแพ้ 12 เก็บไป 36 คะแนน ห่างจากทีมอันดับ 8 และ 9 อย่างลำพูน วอริเออร์ และอุทัยธานี เอฟซี เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

หากเทียบกับผลงานเมื่อฤดูกาลก่อน ที่จบอันดับ 13 และรอดตกชั้นหวุดหวิดเหนือชลบุรี เอฟซี เพียง 2 คะแนน ต้องถือว่านี่คือการยกระดับทีมที่มีนัยสำคัญ และเบื้องหลังความอยู่รอดของ “ค้างคาวไฟ” ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เป็นการวางรากฐานจากการบริหารทีมที่เปี่ยมไปด้วยความทุ่มเทอย่างแท้จริง โดยมีแรงหนุนจากบุคคลสำคัญของจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ฯพณฯ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่รับบทประธานที่ปรึกษาสโมสร, ดร.อนงค์วรรณ เทพสุทิน ที่รับหน้าที่ประธานสโมสร และ เขตพงศ์ กุลนารถศิริ ผู้จัดการทีมมือเก๋าผู้ขับเคลื่อนทีมอย่างมั่นคง

แม้จะมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของกุนซือหนุ่มอย่าง “โค้ชโดนัท” อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์ ที่ยังไม่มีโปรไฟล์หรูหราในวงการ แต่สิ่งที่เขาพิสูจน์บนเวที ไทยลีก 1 ฤดูกาลนี้ คือการควบคุมเกมและจัดทัพให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้ทรัพยากรจำกัด ทว่า “ไพ่ใบสำคัญ” ที่พาทีมรอดชีวิตนั้นต้องยกให้ แข้งต่างชาติ ที่ระเบิดฟอร์มเก่งแบบไม่มีแผ่ว

โดยเฉพาะชื่อของ จอห์น บาจโจ้, มาเธอุส ฟอร์นาซารี และ เคลาดิโอ ราฟาเอล ซานโต๊ส ที่กลายเป็นแกนหลักทั้งเกมรุกและรับ บาจโจ้กลายเป็นเพลเมกเกอร์ที่มีความเร็วและสร้างความแตกต่างในแดนหน้า ส่วนฟอร์นาซารีเป็นดาวซัลโวประจำทีมแม้จะเป็นกองหลัง! สถิติเขาคือหนึ่งในแฮตทริกฮีโร่ช่วงเลกสอง พร้อมเคลาดิโอที่รับหน้าที่ปิดเกมแดนหลังอย่างแข็งแกร่ง

แน่นอนว่านักเตะไทยก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ผู้เล่นอย่าง เลอสันต์ เทียมราช, จักรกฤช เวชภิรมย์, ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์, ศฤงคาร พรมสุภะ, สิโรจน์ ฉัตรทอง, สราวุธ กัลยาณบัณฑิต, กิตติพันธ์ แสนสุข และ สุรวิช โลกาวิทย์ ล้วนเป็นฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนทีม โดยเฉพาะในเกมที่ต้องเปิดบ้านสู้กับทีมใหญ่อย่าง การท่าเรือ หรือ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สุโขทัยไม่เคยยอมง่าย ๆ

ผลงานในแต่ละนัดสะท้อนภาพทีมที่ “ไม่เคยยอมแพ้” อย่างแท้จริง ครึ่งแรกของฤดูกาล ทีมเริ่มต้นสะดุด แต่ค่อย ๆ ฮึดกลับมาเก็บแต้มสำคัญ เช่น การถล่มลำพูน วอริเออร์ 4-0 และเบียดชนะนครราชสีมา 1-0 ซึ่งทำให้เลกแรกจบลงด้วยโมเมนตัมที่ดี ทว่าในเลกสอง สุโขทัยเจอช่วงหลุดฟอร์มอีกครั้ง มีทั้งความพ่ายแพ้และผลเสมอหลายเกม แต่พวกเขายังมีจุดยืนที่มั่นคงพอจะเก็บแต้มในบ้าน และใช้พลังเกมรุกในนาทีท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเฉพาะเกมสุดท้ายของฤดูกาล ที่บุกไปแบ่งแต้มกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แบบสุดระทึก 4-4 พร้อมกับ แฮตทริกของมาเธอุส ฟอร์นาซารี ที่ยิงคนเดียวสามลูก ถือเป็นแมตช์ที่สะท้อนหัวใจนักสู้ของทีมได้ดีที่สุด

สำหรับฤดูกาลหน้า สุโขทัย เอฟซี ยังคงต้องเสริมความแข็งแกร่งให้มากขึ้น หากหวังจะหนีจากการลุ้นตกชั้นและก้าวขึ้นไปอยู่ในกลุ่มกลางตารางอย่างมั่นคง แต่จากศักยภาพผู้บริหารและขุมกำลังที่มีอยู่ตอนนี้ บวกกับพลังแฟนบอลค้างคาวไฟที่พร้อมหนุนหลังทุกเกม บ้านกีฬาเชื่อว่าทีมนี้มีดีพอจะอยู่รอดใน ลีกสูงสุด ได้ต่อไปแน่นอน

ติดตามความเคลื่อนไหววงการฟุตบอลไทยแบบเข้มข้นได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา